วันรุ่งขึ้น สไบนางขโมยเรือที่ผูกอยู่ที่ท่าไปพายเล่น เพราะพายไม่เป็นเรือเลยทั้งขวางทั้งช้าแต่เธอก็พายๆ งัดๆ ไม่ยอมเลิกขำพ่อของระเบียบที่ดูแลเรืออยู่กลับมาบอกยายจันทร์ว่าเรือหายไปสงสัยสไบนางแอบพายเรือไปแน่ สมปองแม่ของระเบียบเห็นยายจันทร์ทำท่าจะเป็นลมบอกให้นั่งพักก่อน
“คุณพระคุณเจ้าช่วยคุ้มครองคุณบีด้วยเถอะ อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยคุณแม่เธอเลย” แล้วยายจันทร์ก็เล่าถึงอดีตตอนนั้นให้สมปองกับขำฟังว่า
ค่ำวันหนึ่ง ลูกน้องของประมุขช่วยกันงมร่างศรีอำไพขึ้นจากน้ำ ประจักษ์พ่อของสไบนางร้องไห้โฮๆ เข้าไปกอดศพภรรยา ครู่หนึ่งก็หันขวับจ้องหน้าประมุขราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ พูดอย่างแค้นใจว่า
“พี่มุขฆ่าเมียผม พี่หาทางฆ่าเขาจนได้ ไอ้ฆาตกร มึงฆ่า กูอีกคนสิวะ ฆ่าปิดปากกูอีกคนเลยสิ มึงเลวยิ่งกว่าสัตว์”
ประมุขกระชากแขนน้องชายผลักจนล้มลงไปกับพื้น ตะคอก
“มึงสงบสติอารมณ์ซะไอ้จักษ์ แล้วเตรียมจัดงานศพให้เรียบร้อย” พูดแล้วเดินออกไป
“ไพของพี่...ในที่สุดไพก็ต้องตายเพราะมัน...ไพ...” ประจักษ์ร้องไห้ฟูมฟายกับศพของศรีอำไพตัวสั่นสะท้าน
ยายจันทร์เล่าไปก็น้ำตาคลอไปจนสมปองถามว่ายายเห็นเหตุการณ์ด้วยหรือ ยายจันทร์เช็ดน้ำตาบอกว่า “เปล่าหรอก เขาพูดๆกันมา”
สมปองถอนใจยาว ส่วนขำจะไปตามสไบนางเชื่อว่าเธอพายเรือไม่เก่งคงไปได้ไม่ไกล
ooooooo
สไบนางพายเรือขวางๆวนๆ แต่ก็พายไปจนถึงหน้าบ้านไทยประยุกต์จนได้ เธอมองตัวบ้านอุทานอย่างตื่นเต้น “โอ้แม่เจ้า บ้านหรือวังกันแน่เนี่ย” พลางชะเง้อมองเข้าไป
ที่หน้าบ้าน อุปมาแต่งตัวจะไปทำงาน บารมีในชุดกางเกงสีกรมท่าขาก๊วยเก่าๆ ใส่เสื้อกุยเฮงสีดำมือถือหมวกสานเก่าๆ ขาดๆ ยืนคุยอยู่กับอุปมา บอกว่าตนจะกลับพรุ่งนี้เลยอยากไปปิดบัญชีเสียให้เรียบร้อย พูดแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย
สไบนางมัวแต่ชะเง้อมองสองพ่อลูก ถูกคลื่นเรือหางยาวที่แล่นฉิวผ่านมาเรือโคลงแล้วก็ล่มในที่สุด ดีว่าสไบนางว่ายน้ำแข็ง เลยเอาตัวรอดได้ แต่ก็ร้องโหวกเหวกโวยวายเสียลั่นคลอง
สไบนางว่ายน้ำมาเกาะขอบท่าน้ำบ้านไทยประยุกต์ บารมีรีบมาดูส่งมือช่วยดึงเธอขึ้นจากน้ำ เขารู้สึกถูกชะตากับเด็กสาวขึ้นมาอย่างประหลาด ยิ่งเมื่อได้พูดคุยเห็นความร่าเริงปนทะเล้นของเธอก็ยิ่งรู้สึกเอ็นดู ชวนเข้าบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเพราะเห็นเธอทำท่าหนาวสั่น
ทีแรกสไบนางเห็นการแต่งตัวของบารมีนึกว่าเขาเป็นคนงานที่นี่ แต่พอบารมีร้องเรียกแรมสาวใช้ให้มาหาเสื้อผ้าให้สไบนางเปลี่ยน ได้ยินแรมเรียกบารมีว่า “คุณท่าน” สไบนางมองอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
แรมเอาเสื้อของอุปมาให้ใส่และเอากางเกงของบารมีให้เปลี่ยน เมื่อลงมาบารมีแนะนำตัวเองว่าให้เธอเรียกตนว่าลุงมี ส่วนสไบนางบอกให้เรียกตนว่าไบก็แล้วกัน
หลังจากนั้นก็พาไปทานอาหารเช้า สไบนางเห็นอาหารแล้วอุทาน “อาหารฝรั่งซะด้วย” เปรยๆว่าถ้ามีน้ำมะเขือเทศด้วยล่ะก็แจ่มไปเลย บารมีจึงให้แรมไปเอาน้ำมะเขือเทศมาให้
“ลุงมีใจดีจังเลย” สไบนางชมไปทานอาหารไป
บารมีถามว่าบ้านอยู่สวนไหนยังไม่ได้บอกลุงเลย สไบนางตัดบทว่าบอกไปลุงก็ไม่รู้จักหรอกจนบารมีบอกว่าขอให้รู้หน่อยเผื่อเหงาๆจะได้เดินไปเที่ยว
“สวนคุณย่ารุจาค่ะ”
บารมีอึ้งสนิท เงียบงันหน้าเครียดไปทันที ส่วนสไบนางยังคุยจ้อว่า
“ลุงหาไม่ยากหรอก ชวนลูกชายลุงไปด้วยก็ได้ หนูจะได้เลี้ยงข้าวลุงบ้าง” แล้วก็ชมเปาะ “ไส้กรอก แฮม บ้านลุงนี่อร่อยจังเลย”
บารมียังนั่งอึ้งอยู่ เขามองสไบนางไม่วางตา ลำคอตีบตื้อจนทานอะไรไม่ลง
ooooooo
เมื่อกลับมาถึงบ้านสวน ยายจันทร์ตัดพ้อน่าสงสารว่าทำยายหัวใจเกือบวายตาย สไบนางคุยโวว่าตนพายไปใกล้ๆแค่นี้เอง ตนว่ายน้ำแข็งเสียอย่างจะกลัวอะไร
“คุณแม่คุณบีก็ว่ายน้ำแข็งยัง...” ยายจันทร์หยุดกึกแล้วขอโทษสไบนาง เธอยิ้มปลอบใจว่า รู้ว่ายายเป็นห่วงต่อไปจะไม่พายเรือ...บ่อยๆก็แล้วกัน ความขี้เล่นของสไบนางทำเอายายจันทร์ยิ้มออกมา
ไม่ทันไรก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณย่า เธอฉอเลาะตามเคย บอกย่าว่าไม่ต้องส่งคนมารับเพราะตนนัดหยาดฝนไว้รับรองไม่เกิน 5 โมงเย็นกลับไปนวดขาให้คุณย่าถึงเตียงได้แน่นอน
หยาดฝนกำลังจะออกจากบ้านไปพบสไบนาง ขณะเดินผ่านหน้าห้องสายทิพย์ผู้พี่สาวก็ต้องหยุดกึกเมื่อได้ยินเสียงหยาดทิพย์ทะเลาะกับธนูสามีเสียงดัง
ฟังทั้งสองทะเลาะกันแล้ว หยาดฝนจับความได้ว่า สายทิพย์ต่อว่าธนูที่แอบมีความสัมพันธ์ลึกกับวิมาดา ธนูไม่ยอมรับซ้ำยังปรามสายทิพย์ว่าให้เกียรติสามีตัวเองบ้าง และตัวสายทิพย์เองก็เป็นครูบาอาจารย์ควรระงับปากระงับคำระวังอารมณ์ให้มากกว่านี้
ทั้งสองทะเลาะกันรุนแรง จนสุดท้ายธนูหาทางจบด้วยการตะโกนใส่หน้าว่า
“โอ๊ยเบื่อๆๆเบื่อจริงโว้ย บอกแล้วว่าไม่มีอะไรกัน ไม่มีอะไรกันเชื่อบ้างสิ”
พอดีโทรศัพท์มือถือของหยาดฝนดังขึ้น ธนูกับสายทิพย์ได้ยินหยุดมองหน้ากัน หยาดฝนรีบกดตัดสายแล้วเดินหนีไปอย่างเร็ว
ooooooo
ไทยรัฐออนไลน์
- โดย บทประพันธ์ พัดชา จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3 โดย ผิน เกรียงไกรสกุล
- 12 กันยายน 2554, 09:27 น.
No comments:
Post a Comment